ในโลกที่เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีการเดินทางอย่างรวดเร็ว XPENG ได้ก้าวขึ้นมาในฐานะแบรนด์ที่ไม่เพียงแค่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกด้าน ‘AI Mobility’ ด้วยการสร้างสรรค์เทคโนโลยีครบวงจร ตั้งแต่ชิปประมวลผล AI ไปจนถึงรถยนต์อัจฉริยะและหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ การประกาศกลยุทธ์นี้เกิดขึ้นในงาน Global Brand Night ในฮ่องกง โดยมีเป้าหมายในการทำให้ AI เป็นแก่นหลักของการพัฒนานวัตกรรมสำหรับอนาคต
เมื่อฤดูใบไม้ผลิของวงการเทคโนโลยียังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เซี่ยงไฮ้และฮ่องกงกลายเป็นเวทีสำคัญที่บริษัทจากประเทศจีนอย่าง XPENG ได้แสดงศักยภาพและความทะเยอทะยานของตนเอง ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับของฮ่องกง แบรนด์นี้ไม่ได้แค่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ แต่ยังประกาศแผนการยกระดับการเดินทางสู่ยุคที่ AI จะกลายเป็นหัวใจสำคัญ
He Xiaopeng ผู้ก่อตั้ง XPENG ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทที่มาจากโรงรถเล็กๆ ในมหาวิทยาลัยกว่างโจวเมื่อ 10 ปีก่อน โดยชื่อแบรนด์สะท้อนถึงความฝันและการสำรวจอนาคต ภายใต้แนวคิด 'Non-Legacy EV Brand' ที่เน้นการสร้างเทคโนโลยีเฉพาะตัวแทนที่จะใช้งานเทคโนโลยีจากแหล่งภายนอก
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการพัฒนา Turing AI Chip ซึ่งเป็นสมองกลที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้สูงถึง 700 TOPs และรองรับระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ L4 นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น X9 ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะและวิศวกรรมภายใต้ปรัชญา 'Two Hands Philosophy' ที่นำโดย JuanMa Lopez ดีไซเนอร์ชาวสเปนผู้เคยทำงานกับ Lamborghini และ Ferrari
นอกจากนี้ โครงการ AEROHT ที่กำลังพัฒนายานบินขนาดเล็กและรถยนต์บินได้ X3 ยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการขยายขอบเขตการเดินทาง ส่วนหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ IRON ที่ใช้งานชิป Turing ก็กำลังเตรียมพร้อมสำหรับตลาดในปี 2026
การลงทุนระยะยาวในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และเทคโนโลยีเคลื่อนที่ต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ XPENG ในการสร้างระบบนิเวศ AI Mobility ที่เชื่อมโยงทุกการเคลื่อนไหวเข้าด้วยกัน
ในฐานะผู้ชมงาน Global Brand Night ผมรู้สึกประทับใจกับวิสัยทัศน์ของ He Xiaopeng ที่ไม่เพียงแค่มองการณ์ไกลในด้านเทคโนโลยี แต่ยังมีความกล้าหาญในการลงทุนในโปรเจกต์ที่อาจดูเหมือนไกลเกินเอื้อม เช่น รถยนต์บินได้และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ การเดินทางครั้งนี้สอนให้เราเห็นว่า การสร้างนวัตกรรมไม่ใช่แค่การทำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ แต่ยังหมายถึงการทำสิ่งที่คนอื่นยังไม่กล้าลอง