เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและกองปราบปรามได้ประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นกลุ่มผู้ลักลอบขนย้ายไอซ์จำนวน 100 กิโลกรัม โดยกลุ่มนี้ใช้วิธีอำพรางโดยการพาครอบครัวไปเที่ยวเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ในระหว่างการดำเนินงาน ตำรวจได้ตรวจพบรถสองคันที่บรรทุกยาเสพติดจำนวนมากบริเวณจุดตรวจด้านหน้าสถานีบริการประชาชนของตำรวจทางหลวงในเขตชุมพร การสอบสวนเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังพยายามลำเลียงยาเสพติดจากประจวบคีรีขันธ์ไปยังสงขลา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ในที่สุด
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายน พ.ศ.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งเบาะแสว่าจะมีการขนย้ายยาเสพติดในปริมาณมากจากพื้นที่ภาคกลางลงสู่ภาคใต้ พวกเขาใช้รถยนต์สองคันเป็นยานพาหนะ และทำทีเหมือนพาครอบครัวออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ หลังจากรับทราบข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในพื้นที่ชุมพรได้ร่วมมือกับกองปราบปรามในการวางแผนจุดตรวจเพื่อสกัดกั้น
เมื่อรถทั้งสองคันที่อยู่ในข้อสงสัยขับผ่านเข้ามาในพื้นที่เจ้าหน้าที่จึงทำการเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ ผลปรากฏว่าภายในรถทั้งสองคันนั้นมียาเสพติดชนิดไอซ์จำนวนรวม 100 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุ 6 ใบ เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดของกลางและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คนมาทำการสอบสวน
จากการสอบปากคำ นายณรงค์ศักดิ์ นายศิริศักดิ์ และ น.ส.พรเพ็ญ ให้การยอมรับสารภาพว่าพวกเขารับจ้างจากนายทุนค้ายาเสพติดให้ขนส่งยาเสพติดไปยังพื้นที่สงขลา โดยได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 100,000 บาท ส่วน น.ส.เอ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเยาวชนให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดครั้งนี้ และถูกเพื่อนรุ่นพี่ชวนมาเที่ยวด้วยเท่านั้น
ภายหลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมายแก่ผู้ต้องหาทั้งสี่รายในความผิดฐาน "จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1" จากนั้นได้ส่งตัวนายณรงค์ศักดิ์ นายศิริศักดิ์ และ น.ส.พรเพ็ญ ให้พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.ปส. ส่วน น.ส.เอ ซึ่งเป็นเยาวชนได้ถูกนำตัวส่งสถานีตำรวจภูธรสลุย จังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินการในกระบวนการที่เหมาะสม