เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ดำเนินการจับกุมขบวนการขนย้ายยาเสพติดที่พยายามหลบเลี่ยงจุดตรวจในเขตชายแดนเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยสองรายพร้อมของกลางเป็นไอซ์น้ำหนักกว่า 640 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามหัวหน้าแก๊งสามารถหลบหนีไปได้สำเร็จ การปฏิบัติงานครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการหยุดยั้งการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิของเดือนเมษายน พื้นที่ใกล้ชายแดนทางตอนเหนือของประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับการจับกุมครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดร่วมกับกองกำลังทหารได้วางแผนสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายไอซ์จำนวนมากบนถนนสายปากทางพม่า–บ้านห้วยจะค่าน ในเขตอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
การตรวจสอบข่าวกรองพบว่ากลุ่มผู้ลักลอบขนยาเสพติดได้เตรียมนำสารเสพติดออกจากพื้นที่อรุโณทัย ตำบลเมืองนะ สู่จุดหมายภายในประเทศ เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังรอบบริเวณดังกล่าว เมื่อพบรถกระบะโตโยต้าสีเทาพร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคันหนึ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างน่าสงสัย พวกเขาได้ทำการเรียกตรวจ แต่คนขับรถกระบะกลับเบี่ยงรถออกแล้วหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว
จากการตรวจสอบในรถยนต์ พบชายคนหนึ่งชื่ออาซะ อายุ 34 ปี นั่งอยู่ภายใน และยังพบกระสอบฟางบรรจุไอซ์จำนวน 32 ใบ รวมน้ำหนักมากกว่า 640 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีชายอีกคนชื่อสุรนาท อายุ 27 ปี ซึ่งขับรถจักรยานยนต์มาเพื่อคุ้มกัน
จากคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสองทราบว่าหัวหน้าแก๊งที่หลบหนีได้ชื่อว่าวัลลพ เป็นชาวอำเภอเชียงดาวที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนย้ายยาเสพติดมาก่อน
ในที่สุดทั้งสองผู้ต้องสงสัยถูกดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดประเภทที่ 1 โดยไม่มีใบอนุญาต และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
การจับกุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการประสานงานระหว่างหน่วยงานรัฐบาลและความพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดปัญหายาเสพติดในประเทศ นอกจากนี้ยังเตือนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการป้องกันในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายยาเสพติดที่อาจส่งผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม