กรณีที่เกิดขึ้นในภูเก็ต ซึ่งเจ้าของร้านให้บริการเช่ารถจักรยานยนต์ได้เข้าแจ้งความหลังจากพบว่าลูกค้าผู้เช่ารถได้นำรถออกไปนอกเขตพื้นที่โดยไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญา นอกจากนี้ ยังมีการตรวจพบว่ารถดังกล่าวถูกขนส่งผ่านทางรถกระบะของบริษัทรับส่งสินค้า เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา การกระทำดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบและขยายผลเพื่อหาข้อเท็จจริง
เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา เมื่อร้านให้เช่ารถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งในตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต ปล่อยรถฮอนด้า PCX สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1กพ 9182 ภูเก็ต ให้กับลูกค้ารายหนึ่ง โดยมีข้อกำหนดชัดเจนว่ารถสามารถใช้ภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในวันถัดมา เจ้าของร้านพบว่ารถได้เคลื่อนออกจากพื้นที่ไปยังจังหวัดชุมพร
จากการตรวจสอบผ่านระบบ GPS เจ้าของร้านได้รับคำตอบที่ไม่ตรงกับความจริงจากลูกค้าผู้เช่า ซึ่งระบุว่ารถยังคงอยู่ในเขตพื้นที่กะรน อำเภอเมืองภูเก็ต การประสานงานระหว่างหน่วยงานตำรวจหลายพื้นที่นำไปสู่การตรวจพบรถจักรยานยนต์ดังกล่าวที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในสมุทรสงคราม และรถถูกซ่อนไว้ในรถกระบะตู้ทึบของบริษัทขนส่ง
แม้ว่าลูกค้าผู้เช่ายังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่การตรวจสอบเพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่าอาจมีการวางแผนอย่างเป็นระบบในการนำรถออกจากพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าลูกค้ารายเดียวกันนี้เคยมีประวัติการเช่ารถจากผู้ประกอบการรายอื่น และรถคันนั้นก็ถูกสกัดไว้ได้ที่จังหวัดชุมพร
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ตควบคุมตัวผู้เช่าเพื่อสอบสวนอย่างละเอียด มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการรายอื่น หากพบหลักฐานเชื่อมโยง จะมีการดำเนินการออกหมายจับในลำดับถัดไป นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำให้ผู้ประกอบการเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบข้อมูลลูกค้า เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจกระทบต่อธุรกิจในอนาคต
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยสำหรับธุรกิจให้เช่ารถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีการใช้บริการจำนวนมาก ความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นกุญแจสำคัญในการลดโอกาสของการเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกในอนาคต