เกิดเหตุการณ์เศร้าเมื่อรถยนต์สาธารณะคันหนึ่งไม่ยอมหลีกทางให้รถฉุกเฉินในจังหวัดภูเก็ต ส่งผลให้ชายวัย 62 ปีที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวเสียชีวิตระหว่างทาง การตรวจสอบเบื้องต้นเผยให้เห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต
กรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร เมื่อรถฉุกเฉินไม่สามารถเร่งความเร็วได้ทันเวลา ทำให้ทีมแพทย์ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนถนนสายกมลา-ป่าตอง โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นชายสูงอายุที่มีประวัติโรคหัวใจ เขาเกิดอาการหน้ามืดภายในสวนทุเรียนและญาติได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลป่าตองทันที แม้ว่าทีมฉุกเฉินจะมาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว แต่การเดินทางไปยังโรงพยาบาลใหญ่ในตัวเมืองภูเก็ตกลับเต็มไปด้วยอุปสรรค เมื่อรถแท็กซี่ป้ายเขียวคันหนึ่งขับเคลื่อนอยู่ในเลนซ้ายสุดโดยไม่มีทีท่าจะหลีกทาง แม้ว่ารถพยาบาลจะเปิดไซเรนเต็มที่แล้วก็ตาม
หลังจากเหตุการณ์นี้ ทางโรงพยาบาลป่าตองและตำรวจสถานีตำรวจภูธรป่าตองได้ลงพื้นที่เพื่อรวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และเรียกคนขับแท็กซี่มาสอบปากคำ ขณะเดียวกัน มีการดำเนินคดีตามกฎหมายเนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวละเมิดสิทธิของผู้ป่วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศแผนงานในการปรับปรุงมาตรการบังคับใช้กฎหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยมากขึ้นบนท้องถนน นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงความสำคัญของการหลีกทางให้รถฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์สูญเสียในอนาคต ประชาชนทั่วไปต่างแสดงความเห็นว่า การให้ความร่วมมือในกรณีฉุกเฉินอาจช่วยชีวิตผู้อื่นได้ หากทุกคนมีความตระหนักและปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด