บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ประกาศผลการดำเนินงานด้านยอดขายรถยนต์ในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2568 โดยพบว่ายอดขายรวมลดลง 6.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดยังแสดงสัญญาณเชิงบวกหลังจากจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ในเดือนมีนาคม ซึ่งสร้างแรงกระตุ้นให้กับยอดจองรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ การขายรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ก็เติบโตขึ้นถึง 23.1% ส่งสัญญาณที่ดีต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานพาหนะพลังงานสะอาด

รายงานข้อมูลสำคัญจากตลาดรถยนต์ไทย

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 ยอดขายรถยนต์รวมอยู่ที่ 55,798 คัน แม้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่กลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์กลับเติบโตขึ้น 2.9% โดยเฉพาะรถกระบะขนาด 1 ตันที่มียอดขาย 18,355 คัน แต่ลดลงเล็กน้อยประมาณ 6.6% สำหรับยอดขายในช่วงไตรมาสแรก พบว่ามียอดรวม 153,193 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์

เมื่อพิจารณาตามแบรนด์ โตโยต้ายังคงครองตำแหน่งผู้นำด้วยยอดขายสูงสุดที่ 57,683 คัน รองลงมาคือฮอนด้า 21,369 คัน และอีซูซุ 20,289 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า xEV เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดย HEV ทำยอดขายได้ 13,196 คัน และ BEV อยู่ที่ 8,598 คัน

จากการจัดงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 46 โตโยต้าประสบความสำเร็จอย่างมากในการรับคำสั่งจองรถยนต์เกินกว่า 21,000 คัน ภายในงานมีการจองรถยนต์มากกว่า 9,600 คัน และคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้มากกว่า 7,600 คันภายในเดือนเมษายน

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของโตโยต้า มั่นใจว่าแนวโน้มตลาดรถยนต์กำลังฟื้นตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การขยายตัวของยอดขายในอนาคต

จากข้อมูลที่ปรากฏ ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยกำลังปรับตัวอย่างช้าๆ แม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและผลกระทบจากการจัดงานมอเตอร์โชว์แสดงให้เห็นถึงความสนใจของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น การสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่และการนำเสนอโปรโมชันที่เหมาะสมอาจเป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นยอดขายในระยะยาว