รัฐบาลไทยได้ก้าวหน้าไปอีกก้าวในการส่งเสริมภาคเศรษฐกิจและวัฒนธรรมด้วยการอนุมัตินโยบายที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์โบราณ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อไม่นานมานี้ที่จะปรับปรุงมาตรการภาษีสำหรับรถยนต์คลาสสิก เพื่อสนับสนุนให้เกิดธุรกิจในประเทศ เช่น การบูรณะและการซื้อขายรถยนต์คลาสสิก นอกจากนี้ยังคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นรายได้จากภาษีและการพัฒนาเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เกี่ยวข้องกับวงการรถยนต์คลาสสิก
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ครอบคลุมถึงการขยายอายุของรถยนต์คลาสสิกให้ครอบคลุมรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี และสนับสนุนผู้ประกอบการที่นำเข้ารถยนต์คลาสสิกมาบูรณะภายในประเทศ รวมถึงการคืนภาษีเต็มจำนวนหากมีการส่งออกรถยนต์เหล่านี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมกันนี้ยังมีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องสองฉบับเพื่อรองรับมาตรการดังกล่าว ได้แก่ พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตและประกาศลดหย่อนอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์คลาสสิกที่นำเข้าแบบสำเร็จรูป
มาตรการดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นไปที่การอนุรักษ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านทางรถยนต์คลาสสิก รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศ
หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว เช่น กรมการค้าต่างประเทศที่กำลังเตรียมออกประกาศอนุญาตนำเข้ารถยนต์คลาสสิก ขณะเดียวกันกรมควบคุมมลพิษก็กำลังพิจารณาเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการปล่อยไอเสียของรถยนต์คลาสสิก โดยจำกัดการใช้งานรถยนต์ประเภทนี้เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีการกำหนดวันเวลาที่รถยนต์คลาสสิกสามารถใช้งานได้บนถนน เช่น ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันสำคัญ
การดำเนินนโยบายใหม่นี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มรายได้จากระบบภาษีเท่านั้น แต่ยังส่งผลเชิงบวกต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบูรณะรถยนต์คลาสสิก โดยสร้างโอกาสให้กับช่างเทคนิคชาวไทยที่มีความชำนาญในด้านนี้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ของการท่องเที่ยวในประเทศผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์คลาสสิก
นโยบายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการผสมผสานระหว่างเศรษฐกิจและการอนุรักษ์วัฒนธรรม ด้วยการส่งเสริมรถยนต์คลาสสิกที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือขนส่ง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของโลก การพัฒนานโยบายนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม