ในช่วงดึกของคืนวันที่ 27 เมษายน เหตุการณ์ร้ายแรงได้เกิดขึ้นบนถนนสายเอเชีย บริเวณกิโลเมตรที่ 17 เมื่อรถบรรทุก 6 ล้อที่บรรทุกมะม่วงเต็มคันเสียหลักพุ่งชนรถเทรลเลอร์ที่จอดอยู่ โดยสภาพอากาศที่ฝนตกหนักเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนขับมองไม่เห็นรถเทรลเลอร์ที่จอดอยู่ข้างหน้า การชนครั้งนี้ส่งผลให้เกิดเพลิงลุกโชนและลามไปยังรถยนต์ตราโล่ของตำรวจทางหลวงที่จอดอยู่ใกล้เคียง ทำให้รถยนต์ของตำรวจได้รับความเสียหายถึง 2 คัน
สถานการณ์เริ่มคลี่คลายเมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลธนู และมูลนิธิพุทไธศวรรย์ เข้าระงับเหตุอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการควบคุมเพลิง หลังจากตรวจสอบพบว่าล้อของรถบรรทุกหลุดออกกลางถนน และมะม่วงจำนวนมากกระจายเต็มพื้นผิวถนน ส่วนรถเทรลเลอร์ที่ถูกชนมีร่องรอยความเสียหายที่ปลายท้ายขวาและบางส่วนถูกไฟไหม้ พลเมืองดีที่อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า ในขณะที่ฝนตกและลมแรง คนขับรถบรรทุกอาจไม่สามารถควบคุมรถได้อย่างสมบูรณ์
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย การปฏิบัติตามกฎจราจรและการใช้ความระมัดระวังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงยังได้ดำเนินการสอบสวนโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคต